ราชวงศ์ทิวดอร์ (ค.ศ. 1485 ถึง ค.ศ. 1603) ของ ประวัติศาสตร์อังกฤษ

ดอกกุหลาบทิวดอร์

พระเจ้าเฮนรีที่ 7 เป็นพระโอรสของเอิร์ลแห่งริชมอนด์ (Earl of Richmond) ซึ่งเป็นพระโอรสของโอเวน ทิวดอร์ (Owen Tudor) ขุนนางชาวเวลส์ กับพระนางคัทเทอรีนแห่งวาลัวส์ (Catherine of Valois) ราชินีของพระเจ้าเฮนรีที่ 5 จึงมักจะกล่าวกันว่าราชวงศ์ทิวดอร์มาจากเวลส์ พระเจ้าเฮนรีที่ 7 ทรงอภิเษกกับอลิซาเบธแห่งยอร์ค (Elizabeth of York) พระธิดาของพระเจ้าเอ็ดวาร์ดที่ 4 เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูลลางคัสเตอร์และยอร์ก เพื่อยุติสงครามดอกกุหลาบ แต่ตลอดรัชสมัยของพระองค์ทรงต้องปราบกบฏของผู้ที่อ้างว่าเป็นองค์ชายตระกูลยอร์คที่ถูกขังอยู่ในหอคอยลอนดอน แต่ก็ทรงสามารถปราบได้ในปี ค.ศ. 1487 (สโต๊ก) และปี ค.ศ. 1499

พระเจ้าเฮนรีที่ 8 (ค.ศ. 1509 ถึง ค.ศ. 1547)

พระเจ้าเฮนรีที่ 8

รัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 การฟื้นฟูศิลปวิทยาการจากอิตาลีมาถึงอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1511 ทรงเข้าร่วมสันนิบาตศักดิ์สิทธิเพื่อต้านการรุกรานอิตาลีของฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1513 พระเจ้าเฮนรียกทัพบุกฝรั่งเศส ชนะฝรั่งเศสที่ Battle of the Spurs ทำให้ฝ่ายสกอตแลนด์ยกทัพมาบุกอังกฤษเพื่อช่วยฝรั่งเศส แต่พ่ายแพ้ที่ทุ่งฟลอดเดน (Flodden Field)

ดูบทความหลักที่: การปฏิรูปศาสนาในอังกฤษ

ในปี ค.ศ. 1525 เมื่อพระนางคัทเธอรีนแห่งอรากอน (Catherine of Aragon) ไม่สามารถจะให้กำเนิดทายาทเพื่อสืบทอดบัลลังก์ได้ มีแต่พระธิดาคือแมรี พระเจ้าเฮนรีจึงทรงวางแผนจะหย่าจากพระนางคัทเธอรีน และไปอภิเษกใหม่กับนางแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn) พระเจ้าเฮนรีทรงส่งทูตไปหาองค์พระสันตะปาปาเพื่อขออนุญาตหย่า (จะแต่งงานหรือหย่ากษัตริย์ยุโรปต้องทรงขออนุญาตพระสันตะปาปาก่อน เพราะทรงเป็นเสมือนบาทหลวงผู้ประกอบพิธีแห่งยุโรป) แต่ขณะนั้นกรุงโรมถูกทัพของจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ยึดไว้อยู่ ซึ่งเป็นพระนัดดาของพระนางคัทเธอรีน จึงกดดันพระสันตะมิให้ยอมให้พระเจ้าเฮนรีทรงหย่าจากพระมาตุจฉา

เมื่อพระสันตะปาปาไม่ทรงยอม พระเจ้าเฮนรีก็ทรงทำเองเสียเลย ทรงปลดพระนางคัทเธอรีนในปี ค.ศ. 1531 และอภิเษกกับนางแอนน์ โบลีนในปี ค.ศ. 1533 ขณะทรงพระครรภ์ ให้กำเนิดองค์หญิงอลิซาเบธ พระเจ้าเฮนรีทรงเลิกเชื่อฟังพระสันตะปาปาที่กรุงโรม และทรงห้ามมิให้ขุนนางคนใดติดต่อกับโรม เรียกว่า การหย่าขาดจากโรม (Divorce from Rome) ในปี ค.ศ. 1534 ทรงออกพระราชบัญญัติประมุขสูงสุด (Act of Supremacy) มอบอำนาจให้พระองค์ทรงเป็นประมุขสูงสุดของนิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์

พระเจ้าเฮนรีทรงทำลายอิทธิพลขององค์การศาสนาในอังกฤษ โดยประหารชีวิตที่ปรึกษาที่เป็นบาทหลวง เผาทำลายโบสถ์วิหารตามพระราชกฤษฎีกายุบอาราม (Dissolution of Monasteries) ยึดทรัพย์สินของศาสนาเข้าพระคลัง ทำให้ประชาชนไม่พอใจก่อจลาจล พระเจ้าเฮนรีทรงเข้าปราบปราม ในปี ค.ศ. 1536 พระนางคัทเธอรีนสิ้นพระชนม์ พระเจ้าเฮนรีทรงสั่งให้ทั้งประเทศเฉลิมฉลองใหญ่โต เป็นวันเดียวกับที่นางแอนน์ โบลีน แท้งพระโอรสที่ใกล้จะคลอด ในปี ค.ศ. 1536 พระนางแอนน์ โบลีน ซึ่งกลัวที่จะแจ้งความจริงให้กับพระเจ้าเฮนรี่ จึงวางแผนร่วมหลับนอนกับพี่ชายของตน (จอร์จ โบลีน) ระหว่างที่ทั้งสองอยู่ร่วมกันในห้อง นางเจน โบลีน ภรรยาของพี่ชายของพระนางแอนน์ โบลีน มาพบเข้าจึงนำความเข้าทูลกับพระเจ้าเฮนรี่ พี่ชายของพระนาง และพระนาง จึงถูกสำเร็จโทษ แต่ในความเป็นจริง ทั้งสองมิได้ร่วมหลับนอนกันจริง เพราะไม่สามารถกระทำได้ ระหว่างรอนิรโทษกรรมพระนางแอนน์ โบลีน นางแมรี่ โบลีน น้องสาวของพระนางแอนน์ โบลีน มาเข้าเฝ้าพระเจ้าเฮนรี่ เพื่อขอชีวิตพี่สาวของตน แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ท้ายที่สุดพระนางแอนน์ โบลีนก็ถูกประหารชีวิต และพระเจ้าเฮนรีจะได้ทรงอภิเษกใหม่กับนางเจน เซมัวร์ (Jane Seymour)

ในปี ค.ศ. 1535 พระเจ้าเฮนรีทรงผนวกเวลส์กับอังกฤษ และทรงนำทัพเข้าบุกยึดไอร์แลนด์ จนปราบดาภิเษกพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งไอร์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1542 พระนางเจน ซีย์มอร์ ให้กำเนิดพระโอรสในที่สุดคือเอ็ดวาร์ด แต่นางเจนเสียชีวิตจากการตั้งพระครรภ์ ในปี ค.ศ. 1540 ทรงส่งอภิเษกกับแอนน์แห่งคลีฟส์ แต่เพราะพระนางทรงพระโฉมไม่งามจึงทรงอภิเษกใหม่กับนางคัทเธอรีน โฮวาร์ด (Catherine Howard) แต่ทรงจับได้ว่านางมีความสัมพันธ์กับชายอื่นจึงทรงประหารชีวิตเสียและอภิเษกกับนางคัทเธอรีน พาร์ (Catherine Parr) ในปี ค.ศ. 1543 ในปี ค.ศ. 1547 พระเจ้าเฮนรีจึงสิ้นพระชนม์

พระเจ้าเอ็ดวาร์ดที่ 6 (ค.ศ. 1547 ถึง ค.ศ. 1553) และพระนางแมรี (ค.ศ. 1553 ถึง ค.ศ. 1558)

องค์ชายเอ็ดวาร์ดที่ประสูติกับนางเจน เซย์มูร์ ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเอ็ดวาร์ดที่ 6 แต่ยังพระเยาว์ ทำให้พระปิตุจฉาคือดยุกแห่งโซเมอร์เซต (Duke of Somerset) มีอำนาจ พวกคาทอลิกก่อกบฏในปี ค.ศ. 1549 ดยุกแห่งโซเมอร์เซตถูกลอร์ดนอร์ทธัมเบอร์แลนด์ (Lord Northumberland) ยึดอำนาจไปในปี ค.ศ. 1553 พระเจ้าเอ็ดวาร์ดสิ้นพระชนม์ ลอร์ดนอร์ธัมเบอร์แลนด์วางแผนจะให้เจน เกรย์ (Lady Jane Grey) ขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่พระนางแมรี พระธิดาพระเจ้าเฮนรีที่ประสูติกับพระนางคัทเธอรีนแห่งอรากอน ทรงยึดบัลลังก์ไปในอีกเก้าวันต่อมา

พระนางแมรีทรงเป็นคาทอลิกที่เคร่งครัด อันเป็นอิทธิพลจากพระญาติฝ่ายสเปนของพระมารดา ในปี ค.ศ. 1554 พระนางแมรีทรงอภิเษกกับพระญาติ คือ พระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน ทำให้ประชาชนไม่พอใจอย่างยิ่งเกรงว่าประเทศอังกฤษจะตกแก่สเปน พระนางแมรีทรงกวาดล้างและลงโทษพวกโปรเตสแตนต์ และดำเนินนโยบายกลับกับพระบิดา คือ พระเจ้าเฮนรี โดยการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพระสันตะปาปา ในปี ค.ศ. 1558 ฝรั่งเศสยึดเมืองคาเลส์ (Calais) คืนจากอังกฤษที่ยึดไปตั้งแต่สงครามร้อยปี เป็นที่มั่นสุดท้ายของอังกฤษในฝรั่งเศส

พระราชินีนาถอลิซาเบธ (ค.ศ. 1558 ถึง ค.ศ. 1603)

พระราชินีนาถอลิซาเบธ ขณะทัพเรืออาร์มาดาสเปนบุก ทรงเอาพระหัตถ์กุมลูกโลก แสดงถึงพระแสนยานุภาพระดับโลก

พระนางอลิซาเบธ เป็นพระธิดาของพระเจ้าเฮนรีที่ประสูติกับแอนน์ โบลีน ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 1558 รัชสมัยของพระนางเป็นสมัยที่อังกฤษรุ่งเรืองและสงบสุขเป็นส่วนใหญ่ บุคคลในสมัยของพระนางที่มีชื่อเสียงคือ วิลเลียม เช็คสเปียร์

พระราชินีนาถอลิซาเบธทรงแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางศาสนาในอังกฤษ โดยทรงก่อตั้งนิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์ (Church of England) เป็นนิกายโปรเตสแตนต์ที่ใกล้เคียงกับคาทอลิกมากที่สุด เพื่อความสมานฉันท์ระหว่างพวกคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ในอังกฤษ เป็นศาสนาของอังกฤษ ไม่ขึ้นกับพระสันตะปาปา โดยทรงออกพระราชบัญญัติพระราชอำนาจ (Act of Supremacy) ในปี ค.ศ. 1559 ปราบดาภิเษกพระนางเองเป็นผู้ปกครองสูงสุดของนิกายเชิร์ช ออฟ อิงแลนด์ แต่พระนางก็ยังทรงได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์โปรเตสแตนต์ และเป็นที่เกลียดชังของพวกคาทอลิกอยู่ดี

รัฐสภาต้องการให้พระนางอลิซาเบธทรงอภิเษก แต่พระนางทรงมีความสามารถปกครองประเทศได้โดยไม่อาศัยผู้ชาย ทำให้ทรงได้รับฉายาว่า ราชินีพรหมจรรย์ (The Virgin Queen) แม้จะมีผู้เสนอตัวหลายคน เช่น พระเจ้าฟิลิปแห่งสเปน พระราชสวามีของพระนางแมรี แต่พระนางอลิซาเบธทรงปฏิเสธ ในด้านการต่างประเทศ พระนางอลิซาเบธทรงสนับสนุนกบฏต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศเหล่านั้นอ่อนแอลง เช่น กบฏฮอลันดาที่จะแยกตัวจากสเปน และพวกอูเกอโนต์ในสงครามศาสนาของฝรั่งเศส โดยเฉพาะสเปน พระนางส่งเซอร์ ฟรานซิส เดรก (Sir Francis Drake) เดินทางรอบโลกเพื่อโจมตีอาณานิคมต่างๆของสเปน เมื่อพระนางแมรีแห่งสกอต (Mary, Queen of Scots) กลับจากฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1565 พระนางอลิซาเบธทรงเกรงว่าอิทธิพลของฝรั่งเศสจะแผ่มาถึงสดอตแลนด์ จึงทรงทำสงครามขับเคี่ยวกับพระนางแมรีแห่งสกอต จนพระนางแมรีถูกจับและประหารชีวิตในปี ค.ศ. 1587

พระเจ้าฟิลิปทรงเห็นว่าพระนางอลิซาเบธเป็นภัยต่อสเปน จึงทำสงครามอังกฤษ-สเปน ในปี ค.ศ. 1588 ส่งทัพเรือมหึมาเรียกว่าอาร์มาดาสเปน (Spanish Armada) มาบุกอังกฤษ แต่ฟรานซิสเดรกก็ทำลายทัพเรือสเปนได้เพราะทิศลมเข้าข้างอังกฤษ ทางไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นคาทอลิกและต่อต้านพระนางอย่างหนัก พระนางจึงให้ทัพอังกฤษเข้าบุกกวาดล้างและปราบปรามไอร์แลนด์ ทำให้ในที่สุดไอร์แลนด์ก็ตกเป็นของอังกฤษ

ใกล้เคียง

ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสนาพุทธ ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์จีน ประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์สหรัฐ ประวัติศาสตร์สเปน ประวัติศาสตร์เยอรมนี ประวัติศาสตร์อินเดีย